วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กรณีศึกษา ไทยคร๊าฟท์

1.ทำไมไทยคร้าฟท์ต้องรับพนักงานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่และยังไม่มีประสบการณ์
จากการที่ไทยคร้าฟท์ปฏิบัติงานเช่นนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นการสร้างงานเพิ่มขึ้นให้กับพนักงานและตัวคุณอภิรักษ์เอง ถ้ารับพนักงานใหม่ก็ควรจะรับคนที่มีประสบการณ์มากๆจะได้เข้ามาแบ่งเบาภาระงานในบริษัทให้น้อยลง แต่ทางบริษัทนี้รับพนักงานเพิ่มแล้วก็เพิ่มงานให้บริษัทอีกด้วย ถ้าทางบริษัทรับพนักงานที่มีประสบการณ์งานในบริษัทก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เมื่อมีข้อผิดพลาดพนักงานก็จะแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกวิธี เพราะคนมีประสบการณ์ก็คือคนทำงานเป็นนั่นเอง
ข้อสนับสนุน
การรับคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อนนั้นจะมีข้อดีเรื่องชีวิตการทำงาน แต่คนที่จบใหม่องค์กรอาจจะเสียต้นทุนและเวลาในการสอนงานอีกและเมื่อมองในมุมของคนที่จบการศึกษาใหม่ ก็พบว่าคนจบใหม่มักจะขาดการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ชีวิตการทำงาน เหมือนเอาน้ำร้อนที่เพิ่งต้มเสร็จใหม่ๆไปเข้าตู้เย็นหรือเอาน้ำแข็งมาใส่ลงในกาต้มน้ำที่กำลังเดือด ทำให้มุมมองและพฤติกรรมของคนจบใหม่หลายคนยังเป็นเหมือนอาจารย์กับลูกศิษย์ ในขณะที่องค์กรกำลังมองคนจบใหม่ว่าเป็นลูกจ้างกับนายจ้างไปแล้ว

2 .เมื่อบริษัทเจริญเติบโตขึ้น ทำไมผู้บริหารไม่คิดจะรับพนักงานเพิ่ม
เพราะว่าเมื่อบริษัทเจริญเติบโตขึ้น ก็มีลูกค้ามากขึ้น งานก็มากขึ้นด้วยแต่จำนวนพนักงานที่รับผิดชอบกลับมีจำนวนน้อยมาก แล้วจะทำงานที่ประสิทธิภาพให้ลูกค้าได้อย่างไร เมื่อคนหนึ่งคนต้องทำงานตั้งหลายอย่างและถ้าเกิดพนักงานคนใดคนหนึ่งป่วย ใครจะเข้ามาทำงานแทน เพราะต่างคนต่างก็มีงานล้นมือกันทุกคน แล้วอย่างนี้บริษัทจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดีออกมาให้ลูกค้าได้อย่างไร ทางบริษัทควรจะรับพนักงานที่มีประสบการณ์ในการทำงานและก็สามารถใช้และสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีเพื่อเข้ามาทำงานในด้านการติดต่อกับลูกค้า เพราะว่าลูกค้าจะสั่งสินค้ามาทางอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษจะได้ไม่ต้องไปปรึกษากับคุณ อภิรักษ์ ให้เสียเวลาและจะได้ทำความเข้าจรายละเอียดของ ออร์เดอร์ก่อนที่จะนำข้อมูลไปปฏิบัติงานในขั้นตอนต่อไปได้รวดเร็วขึ้น

3.ทำไมบริษัทไทยคร๊าฟท์ไม่แต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายขึ้น
เพราะบริษัทที่ดีก็ควรจะมีหัวหน้าง่ายมาคอยเป็นตัวแทนในการตัดสินใจและควบคุมการทำงานของพนักงานกันทั้งนั้น เพราะถ้าจะมัวรอแต่กรรมการผู้จัดการคนเดียวงานทุกอย่างก็จะดำเนินไปอย่างล่าช้า การตัดสินใจบางอย่างไม่จำเป็นต้องให้กรรมการผู้จัดการตัดสินใจก็ได้ พนักงานคนอื่น ๆ ก็ทำแทนได้

"ปัญหาขยะล้นหาดบางแสน รัฐหรือชาวบ้านจะเป็นผู้แก้ไข"







กิจกรรมที่ 5 : ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์

สถานการณ์ : “ปัญหาขยะล้นหาดบางแสน รัฐหรือชาวบ้านจะเป็นผู้แก้ไข”
ดันโครงการ ‘ผ้าป่าขยะ’ จัดการปัญหาขยะล้นหาด

หนังสือพิมพ์ลานมะพร้าว จันทร์ 18 กันยายน 2549


ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตนั้นมีมากหลายปัญหา แต่ประเด็นที่มีความสำคัญและทั่วโลกให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้คือ มลพิษทางทะเล ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการดำเนินชีวิตของมนุษย์และได้ก่อให้เกิดผลกระทบทำให้เกิดสภาพเสื่อมโทรมลง โดยเฉพาะต่อระบบนิเวศบริเวณชายฝั่ง และที่สำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อาหารอันมีผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำและทรัพยากรชายฝั่งที่สำคัญ





ทะเลและมหาสมุทรนับเป็นแหล่งรองรับของเสียที่สำคัญของโลก เพราะของเสียจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ท้ายที่สุดแล้วก็จะไหลลงสู่ทะเล ทำให้น้ำทะเลมีของเสียปนเปื้อนอยู่มาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในทะเล
ปัญหาขยะในทะเลในปัจจุบัน กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของขยะในทะเลเป็นเครื่องมือประมง อาทิ แห เศษอวน เสาปักต่าง ๆ ทุ่นพลาสติก ฯลฯ ซึ่งขยะเหล่านี้ไม่เพียงจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ ที่อาจเข้าไปติดกับดัก



สำหรับทะเลในจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะในเขตชายหาดบางแสน ซึ่งเป็นหาดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทำให้มีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ในปี พ.ศ. 2545 ทางเทศบาลแสนสุขได้ดำเนินการแก้ปัญหาขยะบริเวณชายหาด โดยการสร้างทุ่นดักจับขยะไว้กลางทะเล เพื่อดักจับขยะจากท้องทะเลที่จะลอยเข้ามาติดชายหาด ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะลงได้มาก การสร้างทุ่นในระยะแรก ขยะลดลงไป 70% ในระยะที่ 2 ลดลง 80-90% โดยการเก็บขยะที่ติดอยู่กับทุ่นเทศบาลจะมีเรือลอยออกไปเก็บ ส่วนขยะบริเวณชายหาดก็มีเทศบาลมาเก็บ



นางสาวสุปาจรีย์ ศรีปิยะบุตร นักวิชาการสุขาภิบาล เทศบาลแสนสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ขยะจากนักท่องเที่ยว จะผันแปรไปตามจำนวนนักท่องเที่ยว และในช่วงนี้จำนวนนักท่องเที่ยวในบางแสนมีปริมาณเพิ่มขึ้น ขยะก็เพิ่มขึ้น ปริมาณที่เก็บได้เพิ่มขึ้นนิดเดียว เพราะมีการรณรงค์ให้แม่ค้าคัดแยกขยะและนำมารีไซเคิล ส่วนที่ใช้ไม่ได้จึงนำมาทิ้ง ทำให้จำนวนขยะลดน้อยลง
ส่วนปริมาณขยะที่มาจากนักท่องเที่ยวมีเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะชายหาดบางแสนเป็นชายหาดที่บูรณาการเพื่อนักท่องเที่ยวและการพักผ่อน ที่สำคัญจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาบางแสนเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงหลังที่มีการปรับปรุงหาดชายอยู่เป็นประจำ ยิ่งในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ปริมาณขยะก็ต้องมีมากอยู่แล้ว แต่ทางเราก็มีการป้องกัน คือ มีการติดป้ายรณรงค์เรื่องรักษาความสะอาดที่มีมากกว่า 100 ป้ายรอบชายหาดบางแสน ทั้งบริเวณถนนสาย 1 และสาย 2


สำหรับในอนาคต เทศบาลแสนสุขมีโครงการจะทำ ‘ผ้าป่ารีไซเคิล’ โดยมีสาระสำคัญคือ การประชาสัมพันธ์ให้แม่ค้าบริเวณชายหาดทราบว่าเราจะมีโครงการทำบุญจากขยะ ให้แม่ค้านำขยะที่มีมูลค่าสามารถขายได้ราคา คัดมาบริจาคให้ทางเทศบาลแสนสุข และทางเทศบาลจะนำไปขาย แล้วนำเงินที่ได้ไปบริจาคที่วัดต่าง ๆ ในบริเวณเทศบาลแสนสุข ซึ่งถือเป็นการทำบุญร่วมกันของผู้ประกอบการร้านค้าชายหาด



นางแสงมณี ใจจริง แม่ค้าขายของบริเวณชายหาดบางแสน เล่าว่า ขายของอยู่ที่ชายหาดบางแสนเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว เพราะเป็นคนในพื้นที่ ของที่ขายนั้นก็เป็นพวกอาหารทะเล ส้มตำ ไก่ย่าง โดยปกติแล้ว ก็จัดเตรียมถังขยะไว้สำหรับให้ลูกค้าทิ้ง เมื่อเก็บร้านแล้วจึงค่อยแยกขยะ แต่ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะใส่ถุงรวมกันมาเลยแล้วก็ทิ้ง ส่วนของที่ทิ้งไว้บนโต๊ะก็จะเก็บแยกไว้เลย บางอย่างที่พอขายได้จะเก็บไว้ให้ได้ปริมาณเยอะ ๆ ก่อน แล้วค่อยเอาไปขายทีเดียว ส่วนที่เป็นขยะก็เอาไปทิ้ง
หาดบางแสนตอนกลางคืนนั้นสกปรกมาก เพราะนักท่องเที่ยวเมื่อกินกันแล้วก็จะทิ้งขยะไว้ เมื่อถึงตอนเช้าพ่อค้าแม่ค้าจะต้องมาเก็บกวาดกันเองทุกครั้ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากทางเทศบาลก็มาทำความสะอาดบริเวณชายหาดทุกวัน เพราะต่างก็ต้องการให้บางแสนเป็นหาดที่สะอาดและสวยงามน่าเที่ยว



คุณค่าและความสำคัญของทะเลนั้นมีมากกว่าการเป็นแหล่งรองรับของเสียจากมนุษย์ ทะเลหาใช่ถังขยะของเรา แต่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาพันธุ์ และเป็นโลกที่สวยงามอีกใบหนึ่งที่หลายคนเคยได้สัมผัส แต่ปัญหามลพิษทางทะเลนับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ถึงเวลาที่จะต้องช่วยกันแก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที โดยเริ่มต้นด้วยการปลุกจิตสำนึกรักษาความสะอาดที่ตัวเราก่อน





จากการณ์สัมภาษณ์ สรุปได้ดังนี้

กลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์
1.แม่ค้าขายอาหาร (ป้าสะอาด) ทำงานได้ 30 ปี
2.แม่ค้าเช่าห่วงยาง (ป้าชำนาญ) ทำงานได้ 20 ปี
3.เทศกิจ (คุณสาโรจน์ แผ่วทองแผ่ว)
4.นักท่องเที่ยว
5.กลุ่มนักเรียน นักศึกษาจากจังหวัดสมุทรปราการ




ข้อมูลที่ได้

1.แม่ค้าอาหาร
- ขยะส่วนใหญ่มาจากประตูระบายน้ำที่ระบายออกมาตอนน้ำท่วมจากแม่น้ำบางประกง
-ขยะมาจากการที่ทุ่นกักขยะชำรุด ทำให้ขยะจากที่อื่นมาติดอยู่ริมหาดบางแสน
-ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้เป็นคนทิ้งขยะ
-ในอดีตหาดมีความมีความเป็นธรรมชาติมาก แต่ปัจจุบันหาดไม่เป็นธรรมชาติเพราะมีการถมหาดเพื่อขยายพื้นที่เพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว







2.ป้าให้เช่าห่วงยางเป็นคนพื้นที่ อยู่ที่นี่ราว 20 ปี
-หาดในสมัยก่อนมีเก้าอี้ไม่มากขนาดนี้ แต่นักท่องเที่ยวก็พอ ๆ กับปัจจุบัน
-สมัยก่อนหาดไม่ค่อยมีขยะ แต่โป๊ะ และตาข่ายดักขยะชำรุด ขยะจึงลอยเข้ามาในหาด
-ตอนนี้น้ำไม่ค่อยสะอาด เมื่อก่อนน้ำสะอาดมาก
-เทศบาลทำงาน ทุกคนช่วยกันเก็บขยะ เทศบาลก็เก็บขยะ แม่ค้าก็ช่วยเก็บ
-ทั้งภาครัฐและประชาชนต้องช่วยกัน โดยภาครัฐต้องช่วยออกงบประมาณในเรื่องนี้ด้วย
-พื้นที่หาดมีขนาดกว้าง แต่มีผู้ดูแลมีน้อย จึงทำให้ดูแลความสะอาดไม่ทั่วถึง






3.นักท่องเที่ยวจาก จ.นนทบุรี
เที่ยวเดือนละครั้ง
สาเหตุที่มา : ใกล้บ้าน
มีความคิดว่าชาวบ้านน่าจะเป็นผู้ดูแลและรัฐบาลก็ต้องช่วยด้วย
-เขาไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะล้นหาด






4.เจ้าหน้าที่เทศกิจ คุณสาโรจน์ แผ่วทองแผ่ว



หน้าลมหน้าพายุขยะเยอะ เพราะว่าขยะจะมาจากแม่น้ำ ความเจริญไม่มีเลย
- ต้องให้ผู้ประกอบการเป็นแกนนำหลักในการดูแลรักษาความสะอาด เพราะผู้ประกอบการก็จะได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้
- ช่วงที่ขยะมากที่สุดก็คือช่วงพายุ
- ผู้ดูแลปัญหานี้ คือ เทศกิจ นักศึกษา นักท่องเที่ยว และแม่ค้า
- ผู้ที่ทิ้งขยะไม่ถูกที่จะมีบทลงโทษปรับ
- มีการรณรงค์จัดเสียงตามสาย ในการช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดในบริเวณหาด






5.กลุ่มนักเรียน นักศึกษาจากจังหวัดสมุทรปราการ
มาทุกสัปดาห์ บรรยากาศดี นักท่องเที่ยวเยอะ
-ขยะไม่ได้ส่งผลกระทบถึงพวกเขา
-ชาวบ้านน่าจะเป็นคนดูแลรักษาความสะอาดหาดบางแสน


ประเด็นและข้อสรุปที่วิเคราะห์ สังเคราะห์จากการสัมภาษณ์

1. ขยะส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากพื้นที่ แต่มาจากที่อื่น เช่น ปากแม่น้ำบางประกง ทุ่นกักขยะชำรุด
2. นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวประจำ เลยไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะ ชอบบรรยากาศที่บางแสนและประทับใจในการบริการ
3.บางแสนในสมัยก่อนมีความเป็นธรรมชาติ และสะอาดกว่าปัจจุบัน ในสมัยนี้มีความเจริญมากขึ้น ทำให้ธรรมชาติเหล่านั้นเลือนหายไป
4.นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการมีความเห็นว่า ชาวบ้านต้องเป็นแกนหลักในการแก้ปัญหาโดยมีรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา


จากข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รวบรวมมาทำให้ตัดสินใจได้ว่า “ จากสถานการณ์ : ปัญหาขยะล้นหาดบางแสนรัฐหรือชาวบ้านจะเป็นผู้แก้ไข

สรุปก็คือต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายร่วมมือกัน ปัญหาขยะล้นหาดก็จะหมดไป


ปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน

1.นักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์
2.นักท่องเที่ยวไม่ทราบข้อมูล
3.อุปกรณ์ที่ใช้ในการสัมภาษณ์ไม่เพียงพอ ทำให้ข้อมูลที่ได้ไม่ชัดเจน














วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กิจกรรมที่ 3 หนุ่มบาว-สาวปาน และโฆษณาสิงห์





กิจกรรมย่อยที่ 1 หนุ่มบาว-สาวปาน





MV เพลง หนุ่มบาว สาวปาน

เนื้อเพลง: หนุ่มบาว - สาวปานอัลบั้ม: หนุ่มบาว - สาวปาน
กรีดยางอยู่ใต้ไม่ปลอดภัย มาขับวินมอเตอร์ไซค์อยู่ใน กทม. ไอ้ไข่นุ้ยลูกทักษิณรูปหล่อ ไม่ชอบเพลงฮาทคอร์ชอบเพลงคาราบาว ได้แฟนเป็นเด็กแนวสายเดี่ยว แต่อยู่กันเดี๋ยวเดียวก็ออกลายน้ำเน่า บอกอยู่กันไปก็อดตายเปล่าๆ เบื่อแล้วคาราบาวอยากจะโมเดิร์นด็อก คนจนก็เลยไม่ยิ่งใหญ่ น้ำตาตกในรักมาสุดราง สัญญาหน้าฝนมันเก่า หัวควายต้องเศร้าสาวเจ้าล้างบาง สาวจันทร์น้องนางจากบ้านนา มาเสี่ยงดวงชะตาเพื่อจะเจอโชคดี จบ ม.3 ยังไม่ข้าม ม.4 เลือกอาชีพสตรีขายบริการ เป็นบ้านเล็กของเสี่ยใหญ่ เสี่ยไม่เข้าใจทำไมลื้อชอบเพลงปาน มันด่าผู้ชายหลายใจทั้งวัน เสี่ยชักรำคาญเลิกกันดีกว่า ผู้หญิงทุกคนเอาแต่ใจ น้ำตาตกในตบมือข้างเดียว เรื่องง่ายๆ ที่ผู้ชายไม่รู้ แต่ผู้หญิงเค้ารู้ผู้ชายไม่เกี่ยว ความเหงาเป็นขั้วบวกขั้วลบ หนุ่มสาวได้มาพบกันในคืนร้าวราน คนเหงาย่อมเข้าใจคนเหงา เมื่อสายตาเศร้าๆ ส่งไปทักทายกัน หนุ่มขอเพลงบาวสาวก็ขอเพลงปาน หนุ่มร้องเพลงบาวสาวก็ร้องเพลงปาน ดอกรักผลิบาน ณ ตะวันแดง ความเหงาเป็นขั้วบวกขั้วลบ หนุ่มสาวได้มาพบกันในคืนร้าวราน คนเหงาย่อมเข้าใจคนเหงา เมื่อสายตาเศร้าๆ ส่งไปทักทายกัน หนุ่มสาวสานความสัมพันธ์ ย้ายไปอยู่ด้วยกันอย่างเข้าอกเข้าใจ เปิดเพลงปานฟังด้วยกันตอนบ่าย กลับจากวินมอไซค์ ก็เปิดคาราบาว สองแรงร่วมด้วยช่วยกัน หวังว่าอีกไม่นานมันต้องดีกว่าเก่า เปลี่ยนสวรรค์บนดินให้เป็นดาว ว่าจะเปิดร้านเหล้า ชื่อว่าร้านบาวปาน หนุ่มบาวสาวปาน หนุ่มบาวกับสาวปาน สองกายหัวใจเดียวกัน รวมสร้างตำนานรักทรหด หนุ่มบาวสาวปาน หนุ่มบาวกับสาวปาน



เมื่อนิสิต ฟังเพลง หนุ่มบาว สาวปานแล้วคำสั่งที่
1 : ให้นิสิต สรุปใจความจากเนื้อเพลงที่ได้ยิน เป็นเรื่องราว โดยย่อ และใช้สำนวนของตนเองคำสั่งที่
2 : แสดงความคิดเห็นถึง เพลงนี้ หรือเรื่องราว ของบุคคลสองคนในเพลง หรือ วิจารณ์แสดงความรู้สึกถึง เนื้อหาเพลงหรือ วิจารณ์แสดงความรู้สึกถึง เนื้อหาเพลง

จับใจความสำคัญจากเนื้อหาของเพลงหนุมบาว-สาวปาน

ฝ่ายชายชทำอาชีพกรีดยางอยู่ภาคใต้ สถานการณ์ตอนนั้นไม่ปล่อยภัย เขาจึงย้ายไปขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้มีแฟนเป็นเด็กแนวสายเดี่ยว แต่ก็ต้องเลิกกันเพราะผู้หญิงเห็นว่าผู้ชายนั้นจน อยู่กันไปก็อดตายเปล่า ๆ

ฝ่ายหญิงชื่อจันทร์ เป็นคนบ้านนา เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มาทำอาชีพขายบริการ มาเป็นเมียน้อยของเสี่ย แล้วก็ต้องเลิกกัน เพราะจันทร์ชอบฟังแต่เพลงปาน มีเนื้อหาชอบด่าผู้ชายที่หลายใจ เสี่ยจึงไม่ชอบใจ

เมื่อทั้งสองคนมาพบกัน ที่ร้านตะวันแดง เกิดความรู้สึกชอบกัน เพราะต่างคนต่างเหงา ย่อมเข้าใจกันเป็นธรรมดา ทั้งสองคนจึงตกลงย้ายมาอยู่ด้วยกัน ช่วงบ่ายฟังเพลงปาน พอช่วงเย็นฟังเพลงคาราบาว และทั้งสองคิดว่าถ้าช่วยกันทำงาน ทุกอย่างต้องดีขึ้นกว่าเดิม คิดกันว่าจะเปิดร้านเหล้าร่วมกัน ชื่อว่าร้าน "บาว-ปาน"




ความคิดเห็น :

ทั้งสองคนต่างก็มีเรื่องราวชีวิตที่ลำบากและประสบปัญหาในชีวิตมาคล้าย ๆ กัน เมื่อทั้งคู่มาเจอกันและได้พูดคุยกัน จึงทำให้รู้สึกเข้าใจกันและเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ด้วยความรัก ความเข้าใจ และได้สร้างฐานะร่วมกัน และถ้ามองอีกมุมหนึ่งสามารถสะท้อนถึงปัญหาของสังคมไทยได้เป็นอย่างดียิ่ง พระว่าสังคมไทยในปัจจุบันมีการครอบครัวของแต่ล่ะครอบครัวไม่มีความอดทน ทำให้มีปัญหากันง่ายและก็จะแตกความสัมพันธ์ และเป็นต้นเหตุของปัญหาทางสังคมมากมาย




กิจกรรมย่อยที่ 2


เมื่อนิสิตได้ ชมภาพยนตร์โฆษณาสิงห์ทั้ง 3 ภาค แล้ว

คำสั่งที่ 1 : ให้นิสิตสรุปใจความสำคัญ ของทั้ง 3 ภาค ว่าแต่ละภาค ว่า จากภาพยนตร์โฆษณา สื่อถึงอะไร และในภาพยนตร์โฆษณาแต่ละชุด บอกอะไร มีรายละเอียดอะไรบ้าง

คำสั่งที่ 2 : ให้สรุปภาพรวม ของภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 3 ภาค และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์ชุดนี้





โฆษณาชุดที่ 1 กอล์ฟมี 18 หลุมหากพลาดหลุมใดให้ลืมหลุมนั้นไปทันที
- บุญชู เรืองกิจ / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นหนึ่ง
กล่าวว่า : หลุมที่ผ่านมาให้ตัดทิ้งไปเราต้องมุ่งไปข้างหน้า
- ศุภพร มาพึ่งพงษ์ / ผู้อำนวยการทีมกอล์ฟสิงห์
กล่าวว่า : “มันไม่ใช่ที่สิ้นสุดของชีวิต” ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังขึ้นทางทิศตะวันออกเรา
ยังคงมีความหวังเสมอ
- ถาวร วิรัตน์จันทร์ / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นสอง
กล่าวว่า : แรงปั้มแรงอัดหัวใจต้องควบคุมให้ได้
- ธรรมนูญ ศรีโรจน์ / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นสอง
กล่าวว่า : “ใจต้องเด็ดขาด เหมือนมีพลังจิต เราต้องนิ่ง”
วิเคราะห์ : โฆษณาชุดนี้ต้องการสื่อให้ถึงว่าเราต้องก้าวไปข้างหน้าเสมอ การที่จะทำอะไรสักอย่างถ้าทำเต็ม
ที่แล้ว เราต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร และการมีสมาธิกับการเล่นกอล์ฟ
เราต้องฝึกให้ได้





โฆษณาชุดที่ 2 เวลาซ้อมจริงๆจะให้สิ่งใดมากวนไม่ได้
- บุญชู เรืองกิจ / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นหนึ่ง
กล่าว : เวลาซ้อมห้ามรับโทรศัพท์ การฝึกวงสวิงจะต้องฝึกซ้ำๆจนกล้ามเนื้อจำวงสวิงได้
- ถาวร วิรัตน์จันทร์ / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นสอง
กล่าวว่า : กอล์ฟมันต้องซ้อมถ้าไม่ซ้องให้เล่นทั้งชาติก็ไม่ได้
- ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นที่สาม
กล่าวว่า : เราต้องซ้อมตีลูกกอล์ฟ 300-400 ลูก ต้องละเอียดและต้องเรียนรู้แรงลม
ในเกมกอล์ฟการฝึกซ้อมก็เหมือนการปรับโฟกัสกล้องให้ชัด
- เชาวลิต ผลาพล
กล่าวว่า : ต้องมาฝึกโปรยหญ้า ต้องรู้ทุกอย่างที่เป็นไปได้
วิเคราะห์ : โฆษณาชุดนี้สื่อให้เห็นถึงว่า ความโชคดีของมนุษย์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากเรื่องบังเอิญ แต่มาจาก
การฝึกซ้อมอย่างหนัก เราต้องควบคุมจิตใจให้ได้เพื่อผลสำเร็จ และทำทุกวิถีทางทุกอย่างที่จะได้มา
ซึ่งผลสำเร็จ




โฆษณาชุดที่ 3 คุณสมบัติพิเศษของนักกอล์ฟไทย คือนักสู้
- ประหยัด มากแสง / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นสอง
กล่าวว่า : ไม่เป็นแคทดี้ ก็มอเตอร์ไซด์รับจ้าง
- ชัพชัย นิราศ / ทีมกอล์ฟสิงห์รุ่นสาม
กล่าวว่า : “เอาลูกกอล์ฟไปขาย”
- พรหม มีสวัสดิ์ / ทีมกอล์ฟรุ่นสาม
กล่าวว่า : พอเลิกเรียนมาดูวิธีการเล่น
- ธงชัย ใจดี
กล่าวว่า : เมื่อได้โอกาสมาแล้ว เราจะทำอย่างไร ให้เด็กที่มีความสามารถมีโอกาสเล่นกีฬากอล์ฟ
อนาคตเด็กไทยต้องก้าวตามทันรุ่นพี่ หรือดีกว่ารุ่นพี่
- บุญชู เรืองกิจ
กล่าวว่า : สร้างเด็กไทยรุ่นใหม่
- ศุภพร มาพึ่งพันธ์
กล่าวว่า : ตราบใดที่คุณมีความมุ่งมั่นก็จะสู้เขาได้หมด
วิเคราะห์ : นอกจากความสำเร็จของตัวเราแล้วนั้น เราต้องแบ่งปันความสำเร็จและสอนให้กับคนรุ่นหลังด้วย
และการที่จะประสบผลสำเร็จได้นั้น เราต้องเริ่มมาจากจุดเล็กเสียก่อนและใช้ความพยายามไปถึง
จุดสำเร็จของชีวิต


วิเคราะห์ : ทั้งหลายทั้งมวลทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง ทั้งความมุ่งมั่น ความพยายาม ซึ่งจะได้มาสู่ความสำเร็จ และที่สำคัญเราต้องเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นหลังได้แสดงความสามารถและได้พัฒนาจนไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งไว้



กิจกรรมที่ 2 : ถูกหรือผิด จะจับหรือจะปล่อย?

สถานการณ์ : ถูกหรือผิด จะจับหรือจะปล่อย ?
วันหนึ่ง ทางสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ได้รับแจ้งเหตุ จากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งว่า จับขโมยที่เข้ามาขโมยของในร้านได้ 2 คน เมื่อตำรวจเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบคนร้ายคือเด็กผู้ชาย 2 คน ซึ่งเป็นพี่น้องกัน คนพี่ อายุ 15 น้อง อายุ 13 เมื่อตำรวจสอบสวน และให้เด็กทั้งสองพาไปยังบ้านพัก ที่อยู่ในชุมชนแออัด แห่งหนึ่ง ปรากฏว่าในบ้าน พบตากับยายของเด็กทั้งสอง อยู่ในสภาพ ตาป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนบนที่นอน ลุกไปไหนไม่ได้ และยายตาบอดมองไม่เห็นและเคลื่อนไหวลำบาก สภาพบ้านเก่า ทรุดโทรม น่าเวทนายิ่งนัก ตำรวจจึงถาม 2 พี่น้องว่า “ทำไมเราต้องขโมยของที่ร้านด้วย” ทั้งสองตอบว่า “ผมจำเป็น ไม่งั้นผมกับน้องและตายายก็จะไม่มีอะไรกิน“ ชาวบ้านละแวกนั้น ช่วยกันขอร้องตำรวจว่า อย่าจับเด็กสองคนนี้เลย เพราะเด็กทั้งสองเป็นเด็กกตัญญู ที่ทำไปเพราะต้องการเอาของมาเลี้ยงตากับยายเพื่อประทังชีวิตเท่านั้นจากสถานการณ์ ท่านคิดอย่างไรกับเหตุการณ์นี้
1. หากท่านเป็นตำรวจ อยากถามว่า เด็กทั้งสองทำผิดหรือไม่ ถ้าผิด เพราะอะไร ถ้าไม่ผิด เพราะอะไร?
2. ท่านจะตัดสินใจจับเด็กทั้งสองดำเนินคดี หรือจะปล่อยตัวไปเป็นอิสระ ถ้าจับดำเนินคดี เพราะอะไร? และถ้าปล่อยตัวไป เพราะอะไร?

เหตุผลของแต่ฝ่าย
จากความเห็นของกลุ่มเลือกจับในครั้งแรก เนื่องจากตำรวจมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนและตั้งมั่นอยู่บนความถูกต้อง ถ้าพวกข้าพเจ้าเป็นคนนี้ พวกข้าพเจ้าจะจับกุมตัวเด็ก 2 คนนี้ไว้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีเจ้าทุกข์มาร้องเขียน เมื่อสอบสวนแล้ว เด็กมีความผิดจริง ก็จำเป็นที่จะต้องนำตัวเด็กส่งสถานพินิจและให้ศาลเป็นผู้ตัดสินต่อไป เรื่องตากับยายของเด็กและความผิดที่เด็กกระทำจะอยู่ในดุลพินิจของศาลถ้าตำรวจเกิดความสงสารและไม่จับกุมตัวเด็กไว้ โอกาสที่เด็กจะทำผิดอีกมีมากและที่สำคัญ จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาชนในสังคมนั้น ๆ ส่งผลเสียต่อระบบสังคมและการพัฒนาของประเทศชาติในภายภาคหน้า

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กิจกรรมที่ 1 : เช่าหรือซื้อดีกว่ากัน ?




เช่าหรือซื้อดีกว่ากัน ?






โรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา เปิดสอนตั้งแต่ชั้น ม.1-ม.6 มีนักเรียนประมาณ 3,000 คน ทางโรงเรียนกำลังจะต้องพัฒนาห้องเรียนคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ให้เพียงพอกับการใช้งาน โดยต้องการมีห้องคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 4 ห้อง และแต่ละห้องต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิด Multimedia ที่มีการเชื่อมต่อเป็นโครงข่ายคอมพิวเตอร์และเชื่อมต่อกับ Server ของโรงเรียน อันจะทำให้คอมพิวเตอร์ทั้งหมดสามารถใช้สืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้ จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อห้องอย่างน้อย 50 เครื่อง ผู้บริหารกำลังขอร้อง ให้สมาคมครูและผู้ปกครองของโรงเรียน ช่วยเป็นเจ้าภาพจัดหางบประมาณให้ แต่ทางสมาคม ฯ ยื่นข้อเสนอว่า ขอให้จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพเหมาะกับการเรียนการสอน ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น ควรจะหาทางประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้
การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมี 2 แนวทาง คือ การจัดซื้อมาใช้และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเป็นผู้ดูแลซ่อมบำรุง อีกวิธีหนึ่งคือ การจัดหาด้วยวิธีการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมการดูแลซ่อมบำรุง (3 ปี) เมื่อครบ 3 ปี บริษัทผู้ให้เช่าจะยกเครื่องคอมพิวเตอร์กลับ



ประเด็นพิจารณาจากสถานการณ์ข้างต้น นิสิตจะ


1. ตัดสินใจเสนอแนะ ต่อทางโรงเรียนให้ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด หรือใช้วิธีการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์

2. เหตุผลประกอบการตัดสินใจเช่นนั้น ที่มีความสมเหตุสมผล และหนักแน่น โดยใช้ข้อมูลทางวิชาการประกอบอย่างชัดเจน




เหตุผลของแต่ละฝ่าย

เลือกเช่าดีกว่าซื้อ

เนื่องจากข้อมูลที่ใช้ในการสนับสนุนการซื้อมีน้อยกว่าการเช่า และมีความคิดเห็นว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุทำให้ต้องมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาทดแทน เมื่อเราเช่าคอมพิวเตอร์ในปีนี้ อีก 3 ปี คอมพิวเตอร์ที่เช่าก็จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เก่าไป